ข้อกฎหมายเกี่ยวกับ Snus ในไทย

คุณอาจจะเคยเห็นถุงนิโคติน (Snus) ผ่านตากันมาบ้างในช่วงนี้ เรื่องด้วย Snus กลายเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยและชาวต่างชาติในปัจจุบัน เนื่องจากเป็น ทางเลือกที่ไม่มีควันปลอดกลิ่นและพกพาง่าย 

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจซื้อหรือใช้งาน Snus ในประเทศไทย การเข้าใจข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถึงแม้ Snus จะไม่ใช่บุหรี่ แต่ก็ยังถูกจัดอยู่ภายใต้ กฎหมายควบคุมยาสูบและภาษีสรรพสามิต เช่นเดียวกัน บทความนี้ Snusman จะสรุปให้ชัดเจนว่าอะไรถูก อะไรผิด เพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไม่เสี่ยงต่อการถูกปรับหรือดำเนินคด

Snus ถูกกฎหมายหรือไม่ในประเทศไทย?

คำตอบคือ “ใช่” ถ้าใช้และซื้ออย่างถูกวิธี ถุงนิโคตินหรือ Snus ที่ไม่มียาสูบ สามารถใช้และถือครองได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยภายใต้เงื่อนไขที่ชัดเจน ซึ่งรวมถึงแหล่งซื้อที่ต้องได้รับใบอนุญาต การแสดงฉลากภาษีสรรพสามิต และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอายุ

ในปัจจุบัน กฎหมายยาสูบของไทยกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ที่เข้าข่าย “ยาเส้นปรุง” หรือ “ยาเคี้ยว” ต้องอยู่ภายใต้ ใบอนุญาตขายยาสูบประเภท 2 ซึ่งเป็นใบอนุญาตสำหรับผู้ค้าปลีกในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในปริมาณจำกัด หากคุณซื้อจากร้านค้าที่ได้รับอนุญาตและมีฉลากภาษีที่ถูกต้อง แสดงว่าคุณซื้อสินค้าถูกกฎหมาย และสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ

กฎหมายสำคัญที่ผู้ใช้ Snus ต้องรู้

1. อายุขั้นต่ำตามกฎหมาย

ผู้ซื้อและผู้ใช้งานต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ร้านค้าจะต้องตรวจบัตรประจำตัวประชาชนก่อนการขาย หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ

2. ซื้อจากแหล่งที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

Snus ต้องซื้อจากร้านค้าที่ได้รับ ใบอนุญาตสรรพสามิตประเภท 2 และแสดงฉลากภาษีอย่างชัดเจนบนตัวกล่อง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีฉลากภาษีถือว่าเป็นของผิดกฎหมาย และอาจถูกยึดหรือปรับหากถูกตรวจพบ

3. การพกพาเข้าประเทศ (สำหรับนักท่องเที่ยว)

สามารถพก Snus เข้าประเทศได้ใน “ปริมาณเล็กน้อยสำหรับใช้ส่วนตัว” เท่านั้น และต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์เดิมที่ยังไม่เปิด หากมีปริมาณมากเกินไปหรือดูเหมือนมีเจตนาจำหน่าย อาจเข้าข่ายการนำเข้าโดยผิดกฎหมาย

4. ข้อกำหนดด้านภาษีและฉลาก

Snus ที่ขายในไทยอย่างถูกกฎหมายจะต้องมี แสตมป์ภาษีสรรพสามิต ซึ่งแสดงว่าได้ผ่านการจัดเก็บภาษีอย่างถูกต้องและควบคุมคุณภาพตามกฎหมาย ฉลากควรระบุข้อมูลผู้ผลิต ปริมาณนิโคติน และคำเตือนด้านสุขภาพอย่างครบถ้วน

5. Snus ไม่ใช่บุหรี่ไฟฟ้า

หลายคนเข้าใจผิดว่า Snus กับบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน แต่ในความเป็นจริง ประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาดและห้ามนำเข้าโดยสิ้นเชิง ขณะที่ Snus ซึ่งอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ “ไม่มียาสูบ” และ “ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” นั้นยังสามารถใช้ได้อย่างถูกกฎหมายภายใต้ข้อกำหนดที่กล่าวมา

ข้อควรระวังคืออย่านำ Snus ใส่กล่องหรือบรรจุภัณฑ์ที่ดูเหมือนอุปกรณ์ vape หรือใช้ร่วมกับอุปกรณ์ใดๆ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจผิด เพราะถึงแม้ตัว Snus จะไม่ผิด แต่บริบทอาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ และนำไปสู่การตรวจค้นเพิ่มเติมหรือความไม่สะดวก

ทำไมต้องทำตามกฎหมาย ?

การรู้และปฏิบัติตามกฎหมายไม่เพียงช่วยคุณ หลีกเลี่ยงค่าปรับหรือการยึดสินค้า แต่ยังเป็นการรับประกันว่าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการควบคุมคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ Snus ที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจเป็นของปลอม มีสารปนเปื้อน หรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้งา

กฎหมายอ้างอิงเกี่ยวกับ Snus

พระราชบัญญัติการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560
กฎหมายหลักที่กำหนดให้ Snus และถุงนิโคตินเป็น “ยาเส้นปรุง” จึงได้รับการควบคุมเหมือนกับยาสูบทั่วไป ผู้ใช้งานต้องมีอายุอย่างน้อย 20 ปีบริบูรณ์ และผู้ขายต้องมีใบอนุญาตจัดจำหน่าย

พระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. 2560 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
ผลิตภัณฑ์ Snus ต้องเสียภาษีสรรพสามิตอย่างถูกต้อง และต้องมี แสตมป์ภาษี แสดงว่าผ่านกระบวนการทางกฎหมาย การขาย Snus ที่ไม่มีฉลากหรือแสตมป์ถือว่าเป็นของผิดกฎหมาย

ประกาศกรมสรรพสามิต ใบอนุญาตขายยาสูบประเภท 2
หากร้านค้าจะขาย Snus ต้องได้รับใบอนุญาตประเภท 2 ซึ่งจำกัดปริมาณการขาย เช่น ยาเส้นปรุงไม่เกิน 200 กรัมต่อครั้ง อายุใบอนุญาต 1 ปี และผู้ค้าต้องต่ออายุตามระเบียบของกรมสรรพสามิต

ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (บุหรี่ไฟฟ้า)
แม้ Snus จะต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าโดยสิ้นเชิง แต่ประกาศนี้ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจชัดว่า บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์สูบไอถูกห้ามนำเข้าจำหน่ายและใช้งานในไทยอย่างเด็ดขาด ในขณะที่ Snus สามารถใช้อย่างถูกกฎหมายหากปฏิบัติตามข้อกำหนดข้างต้น

Snusguy

นักเขียน

เขียนโดย Snusguy